ฟอสซิลหรือ ซากดึกดำบรรพ์ มีความหมายเดิมว่า ของแปลกที่ขุดขึ้นมาได้จากพื้นดิน แต่ในปัจจุบันหมายถึง ซากหรือร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่ถูกเก็บรักษาไว้ ฟอสซิลมีหลายชนิด อาจเป็นสิ่งที่มีความคงทนยากต่อการทำลาย เช่น กระดูก ฟัน หรือเปลือก แต่ในบางสภาวะ อาจมีการเก็บรักษาซากทั้งตัวให้คงอยู่ได้ เช่น ช้างแมมมอธที่ไซบีเรีย
ฟอสซิลยังอาจเป็นร่องรอยที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต เช่นรอยคืบคลาน รอยเท้าที่อยู่ในชั้นตะกอนและกลายเป็นหินในระยะเวลาต่อมา หรืออาจเป็นช่อง รู โพรง ในชั้นตะกอน ในเนื้อไม้หรือในหิน ที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตและมีแร่ไปตกผลึกในช่องเหล่านี้ มูลสัตว์หรือเศษอาหารที่อยู่ในกระเพาะหรือก้อนหินที่สัตว์กินเข้าไปเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
ฟอสซิลที่พบในหิน แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ ใช้เป็นตัวกำหนดอายุของหิน และใช้เป็นหลักฐานในการหาความสัมพันธ์ของชั้นหินในบริเวณต่างๆ
ฟอสซิล คือ การทับถมของซากสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในแหล่งน้ำ เมื่อสมัยดึกดำบรรพ์ ซึ่งถือเป็นการบันทึกหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และธรณีวิทยาชนิดหนึ่ง เมื่อสัตว์และพืชที่กล่าวถึงนั้นตายลง เมื่อเวลาผ่านไป ส่วนที่เปราะบางและอ่อนของร่างกายจะผุพัง เน่าสลายไป จะเหลือส่วนที่แข็งของร่างกาย เช่น กระดูก, กระดอง หรือ เปลือก เป็นต้น และเมื่อเวลาผ่านไป ส่วนที่เหลืออยู่ที่จะถูกทับถมด้วยทรายหรือโคลนเลนเป็นจำนวนมาก อยู่ด้านบนของซากสิ่งมีชีวิต แล้วน้ำจะถูกดูดซึมเข้าสู่ซากสิ่งมีชีวิต และแร่ธาตุจะกลายเป็นหิน ชั้นของโคลนเลนและทรายจะอัดตัวกันแน่น แล้วซากสิ่งมีชีวิตก็จะถูกฝังลงไปในชั้นของโคลนเลนและทรายลึกลงไปเรื่อย ๆ การทับถมนั้นจะแปรสภาพเป็น หินตะกอน ซึ่งเรามักจะพบฟอสซิลอยู่ในหินจำพวกนี้ นักธรณีวิทยามีวิธีตรวจสอบอายุของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจากซากฟอสซิล และได้นำมาร่างเป็นรูปร่างลักษณะของสัตว์ดึกดำบรรพ์ได้ ทำให้เราสามารถศึกษาการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตสมัยดึกดำบรรพ์ได้ซากฟอสซิลที่อยู่ชั้นบนของชั้นหิน จะมีอายุน้อยกว่าฟอสซิลที่อยู่ลึกลงไป การแบ่งจำพวกของฟอสซิล ออกเป็นจำพวกใหญ่ ๆ ตามลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่ฝังตัวอยู่ได้ดังนี้
1. กระจุกขน
2.ปะการัง
3. ปลาและปลาดาว
4. พืช
5. หอย
6. แอมโมไนต์
7. สัตว์เลื้อยคลาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมและไว้วางใจซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ของเรา...
...แค่คุณเข้ามาดูเราก็ดีใจแล้ว